ความต่างของ อินฟาเรด(Infrared) กล้องวงจรปิด มีกี่แบบ
เขียนโดย: cctvcheck24 cctvcheck24 | Aug 27, 2018
CCTVCheck24 เราเชื่อว่าการที่คุณติดตั้งกล้องวงจรปิด หาซื้อกล้อง CCTV แล้วเราเชื่อว่าอีกสาเหตุหลักในการเลือก กล้องวงจรปิด ใช่ว่าจะความคมชัดหรือความไวของเฟรมกล้องที่จะจับการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ไม่ใช่ประเด็นหลักถ้าหากเป็นยามวิกาล หรือ กลางคืน ถ้ากล้องวงจรปิด เป็นกล้อง CCTV ที่คุณภาพดีมาก แต่ตอนกลางคืนมองอะไรไม่เห็น คุณจะโอเคไหม เพราะเวลากลางคืนคืออัตราเสี่ยงในการโดนขโมยขึ้น หรือ เหตุการณ์ที่ไม่ขาดฝัน อยู่ในช่วงเวลา 20.30 – 05.30 น. เพราะอย่างนี้การทำงานของตัวกล้องวงจรปิด CCTV โดยปกติแล้วกล้องจะมี เซ็นเซอร์ Sensor ตรวจสอบสภาพแสงตลอดเวลาสภาพแสงขณะนั้นๆน้อยกว่าที่กล้องกำหนดไว้หรือไม่
สภาพแสงที่มาก กล้องจะแสดงภาพออกมาเป็นภาพสีหากสภาพแสงน้อยกว่าที่กำหนด แล้งจะแสดงที่ถ่ายออกมาเป็นขาวดำ โดยที่ภาพในสภาพแสงน้อย จะมีความคมชัดน้อยกว่าภาพที่เป็นสีอยู่แล้วและภาพในสภาพแสงน้อย จะมี Noise แทรกค่อนข้างมาก เนื่องจากว่ากล้องวงจรปิดจะพยายามจะเก็บรายละเอียดให้มากขึ้นแต่ยังคงต้องรักษาshuterspeed เอาไว้ จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความไวแสงของ CCD/ CMOS ขึ้น (ที่เราเรียกว่า ISO นั้นแหละ) ซึ่งการที่เพิ่มค่าความไวแสงนี้เองเป็นตัวที่ทำให้ noise เพิ่มขึ้น ทีนี้ บางครั้งการที่เราติดตั้งกล้องในสภาพที่มือสนิทนี้ จะทำให้ภาพที่ได้มี noise มากจนขาดความชัดเจนของภาพที่ได้ จึงได้มีการนำอินฟาเรดมาใช้กับกล้องวงจรปิด
รังสีอินฟราเรด Infrared (IR) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่างคลื่นวิทยุและแสงมีความถี่ในช่วง 1011 – 1014 เฮิร์ตซ์ มีความถี่ในช่วงเดียวกับไมโครเวฟ มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่างแสงสีแดงกับคลื่นวิทยุสสารทุกชนิดที่มีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง -200 องศาเซลเซียสถึง 4,000 องศาเซลเซียส จะปล่อยรังสีอินฟราเรดออกมา ซึ่งไอ้เจ้า อินฟาเรดนี้ มันปล่อยความที่ที่ตาคนมองไม่เห็น (มันจึงไม่รบกวนมนุษย์ และไม่เป็นที่สะดุดตาของขโมย) แต่กล้องมันสามารถมองเห็นได้ และทำให้ภาพมี Noise ที่ลดลง ผลลัพท์คือมีภาพที่คมชัดชัดเจนขึ้น เมื่อ 5 ปีก่อนเราขายพวกกล้อง อินฟาเรดแบบที่เป็น LED ลักษณะ จะเป็นดวงเล็กๆ หลายๆหลอด ปัญหาของอินฟาเรดแบบเก่าๆ คือ
1. มันร้อน ตัวความร้อนนี้แหละที่เป็นตัวเร่งที่ทำให้กล้องเสียไว (ภาษาวิทยาศาสตร์เรียกว่า catalyze)
2. ภาพที่ได้จากอินฟาเรดแบบนี้ภาพ ส่วนที่เป็นสีดำมันจะไม่ดำสนิท ภาพจะฟุ้ง contrast ไม่ดี ภาพไม่สวย
3. อินฟาเรดแบบ LED มันไม่ฉลาด เพราะมันจะส่งคลื่นออกมาเป็นค่าที่ตายตัว เวลาวัตถุหรือหน้าคนเข้ามาใกล้ๆกล้องภาพมันจะ Over จนขาวไปหมด มองไม่เห็นรายละเอียดของภาพ
เดี๋ยวนี้ (10/3/2558) มี อินฟาเรดออกมาใหม่ เค้าเรียกว่า Smart IR หรือ Array มันมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก เพราะ
1. ร้อนน้อยลง ทำให้กล้องอายุการใช้งานได้ยาวนานขึน
2. contrast ดีมากภาพคมชัด
3. มันลดแสง เพิ่มแสง ได้ด้วยตัวกล้องเอง ทำให้ภาพที่ได้ไม่โอเวอร์ หรือ under จนฟุ้งกระจายหรือมืดเกินไป
4. ภาพที่ได้ไม่สว่างเป็นวงในตอนกลางคืน
5. เนื่องจากใช้หลอดเดี่ยว ทำให้ออกแบบให้กล้องมีขนาดเล็กลงได้กว่าเดิม
6. ลำแสงไปได้ไกลกว่าเดิม บางรุ่นมี IR Array แค่สองหลอดส่องไปได้ไกล 40 เมตร รุ่น Speed Dome มี array ส่องได้ 70 เมตรก็มีเราก็ขายออกไปหลายสิบตัวแล้ว
สรุปเลย คืน IR แบบ Array ดีกว่าทุกประการ แต่ปัญหาคือกล้อง CCTV ที่มีอินฟาเรดจะเป็นกล้องที่ไม่ใช่รุ่นประหยัดนะครับ เพราะว่าต้นทุนมาสูงอยู่ อาจจะต้องจ่ายเพิ่มสักเล็กน้อย เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดและมีประสิทธิภาพเวลาเอาไปเป็นหลักฐานจะได้ใช้งานได้
สรุปอีกที ถ้าถามผมนะ ผมจะใช้กล้องที่มี Array เพราะภาพสวย และชัดเจน แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดก็ตาม
หากถูกใจ ชอบภาพแบบนี้ ตามลิงค์นี้ไป เช็คราคากล้องวงจรปิด